การแปลงระบบพิกัดข้อมูล

 

การแปลงระบบพิกัดข้อมูล

การจัดเก็บข้อมูลต้องจัดเก็บให้อยู่ในระบบพิกัดแบบเดียวกัน เพื่อให้สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยกันได้ ทั้งข้อมูลแบบ Vector และ Raster ต้องแปลงให้อยู่ในระบบพิกัดเดียวกันก่อน เช่น ถ้าต้องการวิเคราะห์ข้อมูลในระบบพิกัดแบบ UTM ก็ต้องแปลงข้อมูลที่อยู่ในกริดภูมิศาสตร์ (ละติจูด ลองจิจูด) ให้อยู่ในระบบพิกัดแบบ UTM ก่อนที่จะนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้สำหรับการวิเคราะห์เชิงพื้นที่

7.1 การเปลี่ยนระบบพิกัดข้อมูล Vector

วิธีการ

  1. เปิดชั้นข้อมูล SubDistrict จากโฟลเดอร์ LAB/Convect


  1. คลิกขวาที่ชั้นข้อมูล SubDistrict >> Export >> Save Features As และให้กำหนดค่าต่าง ๆ ดังนี้
  • Format = ESRI shapefile
  • Save as = เลือกพื้นที่เก็บข้อมูลไปที่ Convect >> UTM ให้ตั้งชื่อ Layer ว่า SubDistrict
  • CRS = EPSG : 32647, WGS 84/UTM zoon 47N
  • Encodind = System
  • เลือก Add saved file to map
  • กดปุ่ม OK


  1. วิธีตรวจสอบพิกัดหลังจากการแปลงพิกัดข้อมูล ให้เลือกที่ชั้นข้อมูล SubDistrict >> Properties >> Metadata



7.2 การเปลี่ยนระบบพิกัดข้อมูล Raster

วิธีการ

  1. เปิดข้อมูล DEM จากโฟลเดอร์ LAB/Convect/DEM
  2. ใช้วิธีการแปลงข้อมูลแบบเดียวกับการแปลงข้อมูล Vector (ข้อที่ 15.1)


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การนำเข้าไฟล์ KML ใน google Earth และ Google Maps

การนำเข้าไฟล์ KML และการ Export ข้อมูลKMLเป็น Shape file

การคำนวณพื้นที่และระยะทางโดยใช้โปรแกรม QGIS